วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557
ต้นจาก
ต้นจาก ( nypa palm )
ชื่อภาษาอังกฤษ : Nypa, Atap palm, Nipa palm, Mangrove palm
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nypa fruticans Wurmb.
ชื่อวงศ์ : ปาล์ม (Arecaceae หรือในชื่อเดิมคือ Palmae) เช่นเดียวกับตาล ตาว ลาน หวาย และ มะพร้าว และต้นจากมีชื่ออื่นอีก คือ อัตต๊ะ โดยมีถิ่นกำเนิดอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลของ ประเทศไทย
ชื่อสามัญว่า : Nipa Palm
วงศ์ย่อย : Nypoideae
ต้นจากซึ่งมีสกุลเดียว (Nypa) และเป็นปาล์มเพียงชนิดเดียวที่เป็นพืชในป่าชายเลน และมีลำต้นอยู่ใต้ดิน นับเป็นพืชเก่าแก่มากชนิดหนึ่ง ที่มีซากดึกดำบรรพ์อายุถึง 70 ล้านปี จากพบได้ทั่วไปในเอเชียใต้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในบริเวณน้ำจืด และน้ำกร่อย ที่มีน้ำเค็มขึ้นถึง มักจะขึ้นเป็นดงขนาดใหญ่ เรียกว่า ป่าจาก หรือดงจาก จากสามารถเติบโตได้ดีในดินโคลน ตามป่าชายเลน หรือบริเวณริมคลองที่มีไม้ให้ร่มเงาปะปนอยู่ด้วย มักอยู่ในช่วงที่มีน้ำจืดและน้ำกร่อยปนกัน แต่บนบกที่น้ำท่วมถึงและพบจากได้บ้างเช่นกัน หากดินไม่แห้งแล้งนานจนเกินไป
ลักษณะทางพฤกศาสตร์ของจาก
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ของต้นจาก
- ต้นจาก เป็นปาล์มแตกกอจากลำต้นใต้ดินหรือลำต้นที่เลื้อยไปบนดิน โดยโผล่ก้านใบและตัวใบขึ้นมาอยู่เหนือดิน ลำต้นจะแตกแขนงอยู่ใต้ดินทำให้ขึ้นเป็นก่อๆ และหลายทอด ต้นจากมีความสูงประมาณ 3 เมตร เจริญเติบโตได้ดีในดินเหนียว มีอินทรียวัตถุสูง และมีน้ำท่วมขัง ชอบแสงแดดจัด
- ใบจาก ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก เรียงตรงข้ามกัน มีใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน มีความกว้างประมาณ 5-6 เซนติเมตร และยาวประมาณ 90-120 เซนติเมตร แผ่นใบหนา ปลายใบลักษณะเรียวแหลม โคนใบเป็นรูปลิ่ม (ลักษณะคล้ายใบมะพร้าว) และเป็นรูปรางน้ำคว่ำ ที่ผิวใบด้านบนมีสีเขียวเข้มเป็นมัน ส่วนผิวใบด้านล่างมีสีนวล ส่วนกาบใบใหญ่ห่อโคนต้น ก้านใบที่แตกใหม่จะเป็นสีม่วงแดง[1],[2] ส่วนโคนใบจะมีกะเปาะอากาศ เป็นตัวช่วยพยุงให้ใบชูขึ้นเหมือนชูชีพ ส่วนกาบใบนี้บางครั้งจะเรียกว่า “พอนใบ” ส่วนช่อดอกที่แทงออกมาเรียกว่า “นกจาก
- ดอกจาก ดอกมีสีเหลือง ออกดอกเป็นช่อแบบกระจุกแน่นระหว่างกาบใบ ดอกเป็นรูปกลม ดอกเป็นแบบแยกเพศอยู่ในต้นเดียวกัน ช่อดอกจะชูตั้งขึ้นและโค้งลง มีความยาวประมาณ 25-65 เซนติเมตร ออกดอกได้ตลอดทั้งปี
- ผลจาก ผลเอยู่รวมกันเป็นช่อ มีผลย่อยอยู่เป็นจำนวนมากเป็นกระจุกเรียกว่า “โหม่งจาก” ลักษณะของผลเป็นรูปทรงไข่กลับ (คล้ายกับผลระกำ แต่ไม่มีหนาม) แบนและนูนตรงกลาง ผลมีสีน้ำตาลเรียบเป็นมัน มีความกว้างประมาณ 3-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6.5-7.5 เซนติเมตร ผลมีสันแหลมหรือมีร่องผลประมาณ 9-10 ร่อง ข้างในมีเนื้อเมล็ดสีขาว มีปริมาณของเนื้อไม่มากนัก และใช้รับประทานได้ มีรสชาติคล้ายกับลูกตาลสด ภายในผลมีเมล็ดเมล็ดมีลักษณะเป็นรูปไข่ มีสีขาว
*** ลูกจาก กับ ลูกชิด จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยลูกจากจะมาจากต้นจาก ส่วนลูกชิดจะมาจากต้นตาว ซึ่งทั้งต้นจากและต้นตาวนั้นจัดอยู่ในวงศ์เดียวกัน เลยทำให้คิดไปว่าจากกับชิดคือพืชชนิดเดียวกัน หรือมักจะสับสนแล้วเรียกชื่อสลับกัน (กาพย์เห่เรือ ในรัชกาลที่ 2)
ประโยชน์ของจาก
ประโยชน์ของจาก
- ประโยชน์ของต้นจาก นิยมใช้ปลูกเพื่อประดับริมน้ำกร่อย หรือริมทะเล หรือในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง หรือใช้ปลูกเพื่อเป็นแนวกับลม เพื่อช่วยลดเสียงรบกวน ส่วนผลมีลักษณะที่สวยงาม ใช้ปลูกเป็นไม้กระถางประดับได้เช่นกัน[1]
- หากย้อนไปเมื่อสมัยก่อนนั้นการปลูกจากนั้นยังถือเป็นการจับจองที่ดิน หากใครปลูกในบริเวณไหนก็จะถือว่าเป็นที่ดินของคนนั้น ซึ่งปลูกโดยวิธีการลงแขก ผู้ที่ไปช่วยปลูกจะเป็นพยานในการจับจองที่ดินด้วย
- ประโยชน์ต้นจากที่เหลือใช้ สามารถนำมาใช้ทำเป็นเชื้อเพลิงได้
- ประโยชน์ของลูกจากอ่อน หรือ ผลอ่อน สามารถนำมาไปแกงทำเป็นอาหาร ต้มกินกับน้ำพริก ใช้เป็นผักเหนาะน้ำพริก กินร่วมกับแกงไตปลา ทำเป็นแกงกะทิ ฯลฯ หรือหากปล่อยให้อ่อนพอเหมาะ หรือลูกจากหนุ่มก็ผ่าเอาเมล็ดมารับประทานสดเป็นผลไม้ได้ หรือจะนำมาลอยแก้ว หรือใช้เชื่อมรับประทานเป็นขนมหวานหรือทานร่วมกับไอศกรีมก็อร่อยไม่ใช่น้อย
- ผลจากที่สุกแล้วจะมีเนื้อเยื่อสีขาวและใส นุ่มมีรสหวาน ใช้รับประทานเป็นของหวาน หรือที่เรียกว่า “ลูกจากเชื่อม”
- ผลอ่อนที่แตกหน่อ จะมีจาวจากอยู่ข้างใน สามารถนำมารับประทานได้เช่นเดียวเหมือนจาวมะพร้าวและจาวตาล
- น้ำหวานของต้นจาก (ปลายช่อดอก) หรือที่เรียกว่า “น้ำตาลจาก” มีรสชาติเหมือนกับน้ำตาลโตนด และยังสามารถนำไปเคี่ยวเพื่อทำเป็น “น้ำผึ้งจาก” ได้ด้วยและจะได้ “น้ำตาลปึก” เมื่อเคี่ยวต่อไปก็จะได้เป็น “ตังเม” ซึ่งเป็นขนมที่เด็กจะชอบกันมากหรือจะนำไปหมักเพื่อเป็น “น้ำส้มจาก” ก็ได้เช่นกัน โดยน้ำส้มจากเมื่อนำไปหมักผสมกับอาหารกุ้งก็จะช่วยทำให้น้ำในบ่อกุ้งไม่เน่าเสียอีกด้วย และยังใช้น้ำส้มจากเพื่อนำไปทำเป็น ”น้ำตาลเมา” ก็ได้
- งวงจากหนุ่ม สามารถนำมาใช้ทำเป็นไม้กวาด หรือทำเป็นแส้สำหรับปัดแมลงได้ หรือทำชดหรือแปรงล้างกระบอกตาลตอนทำน้ำตาลจาก
- ใบจากสามารถนำมาใช้ห่อขนมจาก ใช้ทำแมงดากันฝน ทำเป็นของเล่นหรือลูกโตน ส่วนใบแก่จะเย็บเป็นตับจากแล้วนำมาใช้มุงหลังคาหรือใช้กั้นฝาบ้านได้ หรือทำกระแชงที่มีลักษณะคล้ายกับเต็นท์ แถมยังกันความร้อนได้ดีกว่าเต็นท์อีกด้วย หรือนำมาทำเป็นเพิงสำหรับอาศัยพักผ่อนของชาวไร่ชาวสวน ใช้ทำเป็นหมวกที่เรียกว่า “เปี้ยว” หรือจะใช้กันแดดกันฝนบนเรือแจวก็ได้ นอกจากนี้ยังนำมาใช้ทำฝาชีสำหรับครอบกับข้าว หรือทำเป็นฝาซึงสำหรับนึ่งอาหาร เพราะใบจากจะทนทานต่อความร้อนได้ดี เปรียบเสมือนกันความร้อน ส่วนก้านใบที่ลิดใบแล้วใช้ทำไม้กวาดและทำเสวียนหม้อได้
- ใบอ่อนที่เพิ่งแตกยอดใช้ทำมวนบุหรี่สูบ ทำเสวียนหม้อ ตอกบิด ห่อขนมจาก นอกจากนี้ยังใช้ทำที่ตักน้ำที่เรียกว่า “หมาจาก” สำหรับใช้วิดน้ำในเรือได้ แถมยังดีกว่าหมาวิดน้ำแบบอื่นๆ เพราะหมาจากนั้นไม่กินเนื้อไม้ ทำให้เนื้อไม่มีเสีย เรือไม่ทะลุ
- พอนจาก หรือ ปงจาก ใช้ทำเป็นทุ่นสำหรับเกาะตอนว่ายน้ำเพื่อไม่ให้จม หรือนำไปทำเป็นของเล่นสำหรับเด็ก เช่น ทำเป็นดาบ ปืน เรือ ฯลฯ นอกจากนี้ส่วนที่เหนือขึ้นไปเล็กน้อยของพอนจากก็สามารถนำมาตัดทำเป็นไม้ดอกตีเงี่ยงปลาสำหรับชาวประมงได้ด้วย (โดยเลือกตัดเอาเฉพาะพอนจากที่มีขนาดพอดีมือ) หรือนำมาใช้ทำเป็นเชื้อเพลิงก็ได้[4]
- ทางจาก สามารถนำมาทำปลอกสำหรับแจวเรือได้ โดยมีข้อดีกว่าปลอกแจวแบบเป็นเชือกไนลอนคือจะมีความเหนียวกว่า แต่ก็มีข้อเสียคือไม่ทนทานเท่าไหร่นัก นอกจากนี้ยังใช้ทำตับจากได้อีก แต่นำมาใช้ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะไม่แข็งแรง และชาวประมงก็ยังส่วนของทางจากแก่นำมาทำเป็นตะแกรงสำหรับย่างปลาอีกด้วย
วิธีทำน้ำตาลจาก
วิธีทำน้ำตาลจาก
น้ำตาลจากคือผลผลิตที่ได้จากต้นจากโดยต้องผ่านกรรมวิธีตามขั้นตอนที่มาจากภูมิปัญญาชาวบ้านของ ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชที่ได้สืบสานกันมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันน้ำตาลจากมีลักษณะคล้ายน้ำตาลปี๊ป
มีความหวานมากนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบของการทำเหล้าและนำมาประกอบการทำอาหารได้อีกด้วย
กระบวนการผลิต
1. เริ่มจากการน้าวหรือตีงวงตาล(ลูกตาลจาก)
เพื่อกระตุ้นให้ต้นตาลผลิตน้ำหวานมาเก็บไว้ที่งวงตาล
2.แล้วต่อมาตัดลูกตาลออกเหลือแต่งวง
|
3.นำกระบอกไม้ไผ่เกล็ดไม้เคี่ยม 2-3 เกล็ด เป็นสารกันบูด
4. นำไปแขวนรับน้ำตาลที่งวงตาลในเวลากลางคืน( เริ่มปาดตาลราว 4 -5 โมงเย็น พอค่ำก็เสร็จ) น้ำหวานที่รับได้งวงละ 1 กระบอกในตอนเช้า
5.เก็บกระบอกไม้ไผ่ที่รับน้ำตาลไว้เอามาเก็บรวมกัน
6..นำกระบอกไม้ไผ่ที่รับน้ำหวานจากงวงตาลมารวมกันเพื่อล้างกระบอก
8.ตักฟองของน้ำตาลในกระทะออก
9.ใส่ไม้ฟืนเพิ่มเพื่อเพิ่มความร้อน
10.เคี่ยวน้ำผึ้งต่อไปอีกจนเหลือน้ำผึ้ง 1 ใน 3 ของน้ำหวานสด (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) น้ำผึ้งจะมีลักษณะข้นคล้ายยางมะตูม
11. จึงยกลงจากเตา
นำมาโซมด้วยไม้โซมจนข้นเหนียวคล้ายขนมกวน
12.บรรจุใส่ปี๊ป
พร้อมจำหน่ายในราคาปี๊ปละ 1000
บาท
ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์
เป็นส่วนประกอบของการทำอาหาร
ล่วนผสมหลักของการทำขนมหวาน การทำเหล้าที่ีชาวบ้านในแต่ละละแวกนิยมทานกัน
สามารถนำมาจำหน่ายเป็นสินค้า OTOP ของหมู่บ้านนั้นๆได้เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนที่อาศัยอยู่อีกด้วย
ตลาดของการขายน้ำตาลจาก
ตลาดของการขายน้ำตาลจากจะจำหน่ายโดยพ่้อค้าคนกลางเพื่อที่จะนำไปส่งต่อหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
อาทิเช่น การทำเหล้า การทำขนมหรืออาหารโดยคิดเป็นราคา1000 ต่อปี๊ป
สรรพคุณทางยาของจาก
สรรพคุณทางยาของจาก
1. ใบจากนำมาใช้ต้มดื่มแก้แก้อาการท้องร่วงได้
2. กลีบดอกของดอกจาก สามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมของชาสมุนไพรได้
วิธีเพาะพันธุ์เมล็ดต้นจาก
วิธีเพาะพันธุ์เมล็ดต้นจาก
ความสูงของน้ำกำลังดี ทิ้งไว้สักระยะก็จะมีใบโผล่ออกมาจากลูกจาก
ขั้นที่ 2 ภาพตามขวางเวลาผ่าดูเนื้อด้านในขอลลูกจากขณะที่ยอดอ่อนกำลังงอกออกจากลูกจากและจากนั้นรากก็จะงอกตามออกมา
ขั้นที่ 3 หลังจากยอดอ่อนงอกแล้วรากก็จะงอกตามออกมา
ขั้นที่ 4 เมื่อต้นสูงขึ้นก็นำใส่กระถางไว้พอถึงช่วงหน้าร้อนก็นำไปปลูกในพื้นที่ที่ต้องการได้และควรจะมีน้ำขังเพราะจากเป็นพืชที่ชอบน้ำ
ประวัติในบางใบไม้
ประวัติในบางใบไม้
ประวัติ
ตำบลบางใบไม้อำเภอเมืองจังหวัดสุราษฏร์ธานีเป็นตำบลที่มีลำคลองเป็นจำนวนมากสองข้างเป็นป่าไม้เบญจพรรณ ในลำคลองจะมีใบไม้ลอยทับถมกันเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำขึ้นลงไม่สะดวกซึ่งเกิดขึ้นในทุกหมู่บ้านทั้งตำบลราษฏรจึงได้ให้ชื่อว่าตำบลบางใบไม้และสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้
ข้อมูลทั่วไป
ตำบลบางใบไม้ เป็นตำบลในอำเภอเมืองจังหวัดสุราษฏร์ธานี มีพื้นที่ 10.14 ตารางกิโลเมตร 6,576 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มมีแม่น้ำไหลผ่าน ตั้งอยู่หางจากที่ว่าการอำเภอเมืองระยะทาง 2 กิโลเมตร ประกอบด้วย 5หมู่บ้าน มีจำนวนประชากรในเขตอบต. 2,344 คนและจำนวนหลังคาเรือน 984 หลังคาเรือน
ภูมิศาสตร์
ตั้งอยู่ฝั่งทะเลตะวันออกของภาคใต้ มีแม่น้ำตาปีซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญ ไหลผ่านจากทิศใต้ไปลงทะเลทางทิศเหนือที่อ่าวบ้านดอน
ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลบางไทร อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฏร์ธานี
ทิศใต้ ติดกับ แม่น้ำตาปี
ทิศตะวันออก ติดกับ ตำบลบางชนะ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฏร์ธานี
ทิศตะวันตก ติดกับ ตำบลบางไทร อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฏร์ธานี
สถานที่สำคัญของตำบล
องค์การบริหารตำบลบางใบไม้
วัดบางใบไม้
โรงเรียนบางใบไม้
ตลาดกลางการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ตลาดนัดบ้านบางไผ่
สถานีอนามัยตำบลบางใบไม้
สถานที่ท่องเที่ยว
เกาะลำพู เป็นเกาะกลางแม่น้ำตาปี บรรยากาศดี เป็นสถานที่ฟื้นฟูสุขภาพ
ศาลหลักเมือง
วัดบางใบไม้ เป็นวัดที่ประดิษฐานรูปปั้นหลวงพ่อข้าวสุก ที่มีผู้นับถือ
การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและอนุรักษ์โดยชุมชนบางใบไม้
ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม
วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้แก่ประเพณี ชักพระ ทอดพระป่าประเพณี แข่งเรือยาวทอดพระป่า รับ – ส่ง ตายายมีมหรสพพื้นเมือง ได้แก่ หนังตะลุง มโนราห์
เศรษฐกิจ
อุตสาหกรรมครัวเรือน ย่างมะพร้าว น้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็น เย็บตับจาก น้ำผึ้งจาก น้ำส้มจาก ขนมจาก
ความสำคัญของระบบนิเวศป่าจาก
ความสำคัญของระบบนิเวศป่าจาก

ป่าจาก นอกจากจะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของชุมชนแล้ว ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศ พื้นที่ป่าจากนั้นนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน้ำกร่อย ซึ่งต้นจากไม่ได้เป็นพืชชนิดเดียวที่ขึ้นอยู่ในพื้นที่ป่าจาก แต่ยังมีพันธุ์ไม้อีกหลากหลายชนิด รวมถึงสัตว์น้ำที่อาศัยพึ่งพิงป่าจากเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งอาหาร และเพาะพันธุ์อีกด้วย รวมถึงการเป็นแนวป้องกันการกัดเซาะและพังทลายของตลิ่งได้อย่างดีอีกด้วย
ต้นจาก เป็นที่น่าสังเกตว่าจังหวัดชายทะเลบางแห่งก็ไม่มีต้นจากเกิดขึ้นเลย ต้นจากคงเป็นต้นไม้ที่ชอบน้ำกร่อยหรือน้ำที่มีลักษณะ กึ่งจืด กึ่งเค็ม จะไม่พบต้นจากอยู่ชายทะเล หรือบริเวณ น้ำจืด แต่จะพบบริเวณที่มีน้ำทะเลขึ้นถึงและมีน้ำจืดไหล ผ่านเท่านั้น
ต้นจาก เป็นต้นไม้ตระกูลปาล์มเช่นเดียวกับมะพร้าว จะอยู่รวมกันเป็นกอหลายๆ กอหนาแน่นมาก ชอบพื้นที่ค่อนข้าง แฉะหรืออยู่ริมน้ำ จึงเรียกบริเวณที่มีต้นจากอยู่หนาแน่นว่า ป่าจาก เราสามารถทำน้ำตาล จากต้นจากได้เช่นเดียวกับทำน้ำตาลจากมะพร้าว โดย การใช้มีดปาดงวง (ช่อดอกที่ยังอ่อนอยู่) แล้วเอากระบอก รองน้ำตาลมาเคี่ยวเป็นน้ำตาลได้ แต่ปัจจุบัน ไม่นิยมทำมักเก็บใบ และผลมาจำหน่ายมากกว่า
ผลการวิจัยนากุ้งจากต้นจาก
การฟื้นฟูสภาพนผลการวิจัยนากุ้งจากต้นจาก
นักวิจัยทรัพยากรทะเลและชายฝั่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ลงพื้นที่สงขลา - นครศรีธรรมราช พบนากุ้งรกร้างไร้ประโยชน์ ฟื้นสภาพสร้างรายได้ด้วยการปลูก “ต้นจาก” เผยสร้างรายได้ขั้นต่ำวันละพันบาท ด้านสื่อญี่ปุ่นให้ความสนใจบินตรงลงพื้นที่ศึกษางานวิจัย
รศ. ดร.นพรัตน์ บำรุงรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญ สถาบันทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ม.อ.) เปิดเผยถึงการได้เข้าไปศึกษาการทำประโยชน์จาก “ต้นจาก” ซึ่งมีอยู่มากบริเวณอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า “ต้นจาก” เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ทั่วไปบริเวณชายฝั่งทะเล ป่าชายเลน และบริเวณที่ลุ่มที่น้ำทะเลท่วมถึงเป็นครั้งคราวในหลายจังหวัดที่ติดชายฝั่งทะเล ที่ไม่ใช่พื้นที่ดินทราย เช่น สงขลา นครศรีธรรมราช ระนอง ตรังสมุทรสาคร สมุทรสงคราม แต่ที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่ให้ความสนใจแต่การปลูกปาล์มและมะพร้าว ทั้งที่ “ต้นจาก” เป็นพืชที่ให้คุณค่าทั้งทางนิเวศวิทยาและคุณค่าทางเศรษฐกิจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยถือเป็นอาชีพดั้งเดิมที่เป็นภูมิปัญญามาแต่บรรพบุรุษ เช่น การทำน้ำตาลจาก การทำเป็นน้ำส้ม การนำมากลั่นเป็นแอลกอฮอล์ และ การนำใบมามวนยาสูบ การนำใบมามุงหลังคา การนำต้นมาทำเชื้อเพลิง เป็นต้น
| ||||
แต่ในระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ที่เคยมี “ต้นจาก”เจริญเติบโตประมาณ 20,000 ไร่ ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกเปลี่ยนไปเป็น “นากุ้ง” ซึ่งทำรายได้ให้คนท้องถิ่นมากกว่าในขณะนั้น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงได้เข้าไปศึกษาถึงการใช้ประโยชน์จาก “ต้นจาก” และเพื่อการอนุรักษ์ โดยในปี 2534 ได้เน้นเรื่องการทำน้ำตาลเป็นหลัก เนื่องจากเป็นน้ำตาลที่มีรสชาติดี กลิ่นหอม ศึกษาการปลูกในที่ลุ่ม ที่ดอน เทคนิคการปลูก กระบวนการกระตุ้นน้ำหวาน ฤดูกาลกับความสัมพันธ์ของน้ำตาลที่ได้ ศึกษาความสามารถในการจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หาปริมาณธาตุอาหารในส่วนของลำต้นเพื่อให้สัมพันธ์กับการใส่ปุ๋ย ปัจจัยที่มีผลต่อการให้ผลผลิตของ “ต้นจาก” โดยใช้ ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ศึกษา | ||||
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน นากุ้งนับแสนไร่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและสงขลา กำลังเป็นพื้นที่ที่ถูกทิ้งร้าง ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในทางเกษตรกรรมได้เนื่องจากดินมีความเค็ม และต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปีจึงจะสามารถเพาะปลูกพืชที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจได้อีกครั้งหนึ่ง แต่จากการศึกษาทดลองพบว่า “ต้นจาก” สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่นากุ้งร้างประกอบกับ แอลกอฮอล์ที่เป็นผลผลิตหนึ่งของ “ต้นจาก” สามารถเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกได้ ในยามขาดแคลนพลังงาน
จากการทดลองส่งเสริมการปลูก “ต้นจาก” ในนากุ้งร้าง ที่ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช “ต้นจาก” ที่ปลูกเมื่ออายุ 4-7 ปี สามารถให้น้ำตาลได้วันละประมาณ 1 ปี๊บ หรือ 25 กิโลกรัม ต่อพื้นที่ปลูก 2 ไร่ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกมีรายได้วันละประมาณ 1,000 บาท แต่หากนำมากกลั่นเป็นแอลกอฮอล์จะทำรายได้มากกว่านี้ หากมีพื้นที่มากกว่านี้สามารถสลับกันทำได้ทำให้มีรายได้ตลอดทั้งปี และ “ต้นจาก” จะสามารถแตกกอ มีอายุยืนยาวนับร้อยปี
“นากุ้งร้างที่มีอยู่ทั่วไปในแถบจังหวัดสงขลา และ นครศรีธรรมราชในขณะนี้ ควรนำการใช้พื้นที่นากุ้งร้างเพื่อปลูกต้นจากของ ตำบลขนาบนาก ไปเป็นแบบอย่างในการใช้พื้นที่ร้างให้เป็นประโยชน์ เนื่องจากเป็นการทำให้นากุ้งร้าง ซึ่งไม่สามารถเพาะปลูกพืชอื่นใดได้ในระยะเวลาหลายสิบปี กลับคืนสู่สภาพใกล้เคียงปกติได้ โดยการปลูก “ต้นจาก” และย้ายต้นออกไป เพื่อไม่ให้เกลือกลับสู่ดินตามเดิม และปลูกใหม่ สัก 3 รุ่น มีการเกลี่ยคันนาเพื่อให้มีการระบายของน้ำ จะใช้เวลาเพียง 5-6 ปี เท่านั้น หรืออาจจะใช้วิธีการตัดหรือต้นแก่ออกซึ่งจะเป็นการกำจัดเกลือได้เช่นกัน เนื่องจาก “ต้นจาก” เป็นพืชที่ดูดเกลือ สมัยก่อนขี้เถ้าจากต้นจากสามารถใช้แทนเกลือได้ และถ้าสนใจหรือตั้งใจจริง และรัฐเอาจริงเอาจังในการแก้ไขพื้นที่ดังกล่าวจะกลับฟื้นมาสามารถปลูกข้าวได้อีกในอนาคตอันใกล้” รศ.ดร.นพรัตน์ บำรุงรักษ์ กล่าว
| ||||
ในการศึกษาวิจัยเรื่อง “ต้นจาก” ได้รับความสนใจจากนานาชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ บริษัทคันไซ อิเล็คทริก คัมปานี ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตด้านไฟฟ้าที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ร่วมมือศึกษาเพื่อใช้ “ต้นจาก” เป็นพลังงานทดแทน โดยมีการแบ่งหัวข้อการวิจัย ซึ่งญี่ปุ่นจะทำวิจัยเรื่องมวลชีวภาพ คือการดูดเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การวิเคราะห์น้ำตาล ความสามารถในการผลิตแอลกอฮอล์ และระยะต่อไปจะทำการศึกษาเพื่อหากลไกในการทำให้ต้นจากผลิตน้ำหวานให้มากขึ้น ให้น้ำตาลจากไหลดีขึ้น การปรับปรุงคุณภาพของน้ำตาลจาก “ต้นจาก” และ มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้ให้ความสนใจส่งนักศึกษามาในพื้นที่และศึกษาเรื่องพันธุ์ของต้นจากที่ปลูกบริเวณนี้ ในขณะที่ประเทศไทยยังให้ความสนใจกันน้อย
| ||||
โดยเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ฝ่ายข่าวด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ หนังสือพิมพ์ The Asahi Shimbun ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น ได้ให้ความสนใจลงพื้นที่หาข้อมูลเพื่อทำข่าวและสัมภาษณ์เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จาก “ต้นจาก” และการปลูก “ต้นจาก” ในนากุ้งร้าง เพื่อเผยแพร่ในสื่อมวลชนของญี่ปุ่นอีกด้วย
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)